กระจกลามิเนต (Laminated glass)

คือกระจกสองแผ่นขึ้นไปที่ประกบติดกันโดยมีชั้นฟิล์มคั่นกลาง ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็น PVB film (Polyvinyl butyral) หรือ EVA film (Ethylene-vinyl acetate). ฟิล์มนี้จะช่วยยึดกระจกเข้าด้วยกัน ทำให้เมื่อกระจกแตก เศษกระจกจะไม่ร่วงหล่นและยังคงยึดติดกับฟิล์ม. กระจกลามิเนตจึงมีความปลอดภัยสูงกว่ากระจกทั่วไป

คุณสมบัติของกระจกลามิเนต:

• ความปลอดภัย:
  เมื่อแตก เศษกระจกจะยังคงยึดติดกับฟิล์ม ทำให้ไม่เกิดอันตรายจากการหลุดร่วง
• การป้องกันเสียง:
  ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีกว่ากระจกทั่วไป
• การป้องกันรังสียูวี:
  สามารถกรองรังสียูวีได้มากกว่า 99%
• ความทนทาน:
  ทนทานต่อแรงกระแทกและการเจาะทะลุได้ดี
• ความสวยงาม:
  สามารถเลือกสีและลวดลายของฟิล์มได้หลากหลาย
• การใช้งาน:
  เหมาะสำหรับงานสถาปัตยกรรมที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ประตู หน้าต่าง หลังคา หรือตู้โชว์สินค้า

ประเภทของกระจกลามิเนต:

• กระจกลามิเนตธรรมดา:
  ใช้กระจกโฟลต (Float glass) หรือกระจกอบ (Annealed glass). 
• กระจกลามิเนตนิรภัย (Tempered Laminated Glass):
  ใช้กระจกเทมเปอร์ (Tempered glass) ที่มีความแข็งแรงกว่า
• กระจกลามิเนตสี:
  มีฟิล์มสีต่างๆ ให้เลือก
• กระจกลามิเนตเคลือบผิว:
  เพิ่มคุณสมบัติพิเศษ เช่น การสะท้อนแสง หรือการลดแสง

การผลิตกระจกลามิเนต:

1. นำกระจกตั้งแต่สองแผ่นขึ้นไปมาทำความสะอาด
2. วางฟิล์ม PVB หรือ EVA ไว้ระหว่างแผ่นกระจก
3. อัดแผ่นกระจกและฟิล์มด้วยลูกกลิ้งเพื่อไล่อากาศ
4. นำไปอบในเตา Autoclave เพื่อให้ฟิล์มยึดติดกับกระจกอย่างถาวร

ข้อดีของกระจกลามิเนต:

• ลดความเสี่ยงจากอันตรายจากการแตกของกระจก
• เพิ่มความปลอดภัยและป้องกันการโจรกรรม
• ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก
• ป้องกันรังสียูวีและลดความร้อน
• เพิ่มความสวยงามและสร้างสรรค์ให้กับอาคาร