เหล็กไอบีม I-Beam IB มอก. ราคาถูก ราคาโรงงาน
เหล็กไอบีม ราคาถูก เหล็ก I-Beam ไอบีม จะมีความหนาตรงปีกกว่าเหล็กเอชบีม ด้วยขนาดที่เท่ากัน เหล็กไอบีมจึงมีน้ำหนักมากกว่า เหมาะกับงานเครนที่ต้องการรับน้ำหนักโหลดมาก เหล็กไอบีม ราคาโรงงาน พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ
3,221.64 บาท - 68,006.40 บาท
สินค้าในกลุ่ม เหล็กไอบีม I-Beam IB มอก. ราคาถูก ราคาโรงงาน
- เหล็กไอบีม 150x75 SYS (IB 150x75)
- เหล็กไอบีม 200x100 SYS (IB 200x100)
- เหล็กไอบีม 200x150 SYS (IB 200x150)
- เหล็กไอบีม 250x125 SYS (IB 250x125)
- เหล็กไอบีม 300x150 SYS (IB 300x150)
- เหล็กไอบีม 350x150 SYS (IB 350x150)
- เหล็กไอบีม 400x150 SYS (IB 400x150)
- เหล็กไอบีม 450x175 SYS (IB 450x175)
- เหล็กไอบีม 600x190 SYS (IB 600x190)
- เหล็กไอบีม IB SYS PB ทำสีรองพื้นกันสนิม ยาว 6 เมตร
- เหล็กไอบีม IB SYS PB ทำสีรองพื้นกันสนิม รุ่นพรีเมี่ยม (Premium) ยาว 6 เมตร
- เหล็กไอบีม IB SYS PB กันสนิม รุ่นสแตนดาร์ด(2) Standard (ยกเลิกผลิต)
เหล็ก ไอบีม I-Beam มอก. ราคาถูก
เหล็กไอบีม Ibeam ราคาวันนี้ เหล็กไอบีม Ibeam ราคาเท่าไหร่?
เหล็ก I ไอบีม | ขนาด | ความยาว | ราคา |
|---|---|---|---|
เหล็ก I ไอบีม SS400 | 150x75x5.5x9.5 มม. | 6 ม. | {{37211180}} |
เหล็ก I ไอบีม SS400 | 200x100x7x10 มม. | 6 ม. | {{37378260}} |
เหล็ก I ไอบีม SS400 | 200x150x9x16 มม. | 6 ม. | {{41350456}} |
เหล็ก I ไอบีม SS400 | 250x125x7.5x12.5 มม. | 6 ม. | {{5113173}} |
เหล็ก I ไอบีม SS400 | 300x150x8x13 มม. | 6 ม. | {{93103170}} |
เหล็ก I ไอบีม SS400 | 300x150x10x18.5 มม. | 6 ม. | {{42493422}} |
ราคาเหล็ก I-BEAM ไอบีม มอก. 1227-2536 วันนี้ ราคาเหล็กบีม คงที่ ตอนนี้มีเหล็กบีมไร้สนิม ทำโดย SYS
เหล็กรูปพรรณชนิดรีดร้อน ใช้กับงานโครงสร้างขนาดใหญ่ รับน้ำหนักได้มาก นิยมใช้ทำเสา คาน ลักษณะเส้นตรง ความยาวมาตรฐาน 6ม. หน้าตัด กว้างxยาว เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ขอบปีกบนล่าง ด้านในมีความหนามากกว่าบริเวณปลายปีก
หน้าตัดที่เป็นรูปทรงของเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน ทำให้เหล็กมีคุณสมบัติในการรับแรงในแนวต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยน้ำหนักที่เบากกว่าโครงสร้างคอนกรีต เหมาะสำหรับใช้งานโครงสร้างชนิดต่างๆ เช่น โรงงาน อาคารสูง สนามกีฬา เสาส่งไฟฟ้า ตลอดจนบ้านพักอาศัย เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน มีหน้าตัดเป็นรูปตัวเอช เรียกกันว่า H-beam มีปีกกว้าง (Wide Flange) เหมาะสำหรับงานโครงสร้างคาน เสา และโครงหลังคา ส่วนหน้าตัดรูปตัวไอ I-beam ปีกเหล็กจะหนาขึ้นที่โคนปีก จึงรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี เหมาะกับงานเครื่องจักร รางเครน สำหรับเหล็กฉากหรือ Angle มีหน้าตัดรูปตัว L ใช้งานโครงสร้างหลังคา เสาส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาวิทยุ เสาโทรศัพท์ อีกหน้าตัดหนึ่ง คือ รางน้ำ หรือ Channel มีหน้าตัดรูปตัว C นิยมใช้ทำคานรองรับส่วนประกอบต่างๆ เช่น บันได คานขอบนอก นอกจากนั้น เอชบีมที่นำมาตัดแบ่งตามยาว เรียกว่า Cut Beam หรือ Cut-T ใช้ทำโครงสร้างของ Truss แทนการใช้เหล็กฉากเชื่อมประกบกัน
ข้อดีของการใช้เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน
+ ลดระยะเวลาการก่อสร้าง ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยของโครงการ เปิดใช้งานได้รวดเร็ว
+ เตรียมงานจากโรงงานได้ และใช้แรงงานน้อยกว่าการก่อสร้างด้วยระบบอื่น
+ ออกแบบโครงสร้างให้มีช่วงเสากว้าง กว่าโครงสร้างระบบอื่น ไม่เปลืองพื้นที่ใช้งาน
+ ออกแบบงานสถาปัตยกรรมได้หลากหลายเช่น ตัดโค้ง ทำใครงสร้างโปร่ง หรือทำส่วนยื่่นได้มาก
+ โครงสร้างมีน้ำหนักเบา ทำให้ประหยัดฐานราก ลดการขนส่ง และพื้นที่กองเก็บวัสดุ
+ ตรวจสอบ ควบคุมคุณภาพ และบำรุงรักษาได้สะดวกกว่าโครงสร้างอื่น
+ มีความแข็งแรง สามารถรับแรงสั่นสะเทือนและแผ่นดินไหว ได้ดีกว่าโครงสร้างระบบอื่น
+ ก่อสร้างในที่จำกัดได้สะดวก ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะฝุ่น
+ ดัดแปลง ต่อเติม หรือรื้อไปสร้างใหม่ได้ ไม่ต้องทุบทิ้ง
+ สามารถนำวัสดุมาหมุนเวียนได้ 100%
กระบวนการผลิตเหล็กโครงสร้าง รูปพรรณรีดร้อน เริ่มจากการนำเศษเหล็กมาหลอมในเบ้าขนาดใหญ่ด้วยความร้อนสูงกว่า 1600 องศาเซลเซียส จนกลายเป็นน้ำเหล็ก แล้วเติมโลหะปรุงแต่งส่วนผสมเพื่อให้มีความแข็งแรงตามเกรดที่ต้องการ เมื่อปรุงแต่งส่วนผสมแล้ว จึงนำมาหล่อให้เป็นแท่ง หลังจากนั้น นำเหล้กแท่งมารีดด้วยแท่นรีดขนาดใหญ่ ที่อุณหภูมิประมาณ 1200 องศาเซลเซียส รูปร่างหน้าตัดของเหล็กแท่งจะถูกลดขนาดและแปรเปลี่ยนไปตามแบบของลูกรีด จนมีขนาดมาตรฐาน จุดสำคัญในการการทำคือ การควบคุมส่วนประกอบทางเคมีของการหลอมแต่ละเบ้า Heat การรีดเหล็กร้อนให้เป็นรูปร่างที่มีความกว้างและความหนาให้พอดีตามที่กำหนด และการทดสอบความแข็งแรง
เนื่องจากผลิตโดยการหลอมและรีดร้อนขึ้นเป็นท่อน เหล็กโครงสร้างชนิดนี้จึงมีเนื้อเดียวกัน ไม่มีรอยเชื่อมระหว่างส่วนต่างๆ ดังนั้นคุณสมบัติของหน้าตัดจึงสม่ำเสมอกว่าเหล็กโครงสร้างชนิดอื่นเช่น เหล็กรูปพรรณกลวงซึ่งทำจากเหล็กม้วนและเชื่อมตามยาว กับเหล็กโครงสร้างรูปพรรณเชื่อมประกอบที่ทำจากเหล็กแผ่นสามชิ้นเชื่อมเข้าด้วยกัน
เกรดหรือชั้นคุณภาพ
เกรดของเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน เป็นตัวระบุความแข็งแรงของเนื้อเหล็ก เหล็กที่ใช้งานโครงสร้างมีความต้านแรงดึง Tensile Strength ในระดับ 400N/mm2 ขึ้นไป เช่น ASTM A36, JIS/TIS SS400, SM400 เป็นต้น
วิศวกรบางท่านอาจคุ้นเคยกับเหล็ก ASTM A36 เนื่องจากมีในตำราออกแบบที่มีพื้นฐานจากต่างประเทศ แต่ไม่สามารถหาได้ในท้องตลาด จึงมักเกิดปัญหาการใช้งาน ดังนั้นการออกแบบในปัจจุบันจึงต้องใช้เหล็กตามมาตรฐาน TIS 1227-2539 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กับเหล็กที่มีจำหน่ายในประเทศ
ผู้ใช้สามารถทราบคุณสมบัติของเหล็กที่นำมาใช้งานได้จากเอกสาร Mill Certificate ที่ออกโดยผู้ผลิตและที่ตัวเหล็กแต่ละท่อนมีสติ๊กเกอร์ระบุเกรด Heat no. อาคาร จะใช้เกรดสูง หรือ High-Strength ซึ่งมีความต้านแรงดึงตั้งแต่ 490N/mm2 เช่น ASTM A572, ASTM A992, JIS/TIS SM490, SM520 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเกรดเฉพาะงาน เช่น โครงสร้างในทะเล แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในทะเล ที่ต้องใช้เหล็กโครงสร้างเกรดสูงและมีความต้านทานแรงกระแทกที่อุณหภูมิต่ำมากคือ -20องศา , -40องศา ซึ่งการผลิตและทดสอบก็จะเข้มงวดยิ่งขึ้น
เหล็ก เอชบีม H-beam ต่างกับ ไอบีม I-beam อย่างไร?
เหล็กทั้ง 2 หน้าตัดนี้ มีข้อแตกต่างกันอยู่ 2 ด้าน คือ
1 ด้านการนำไปใช้งาน
เหล็กเอชบีม H-beam จะนำไปใช้ในงานก่อสร้างอาคาร เป็นชิ้นส่วนของ เสา คาน โครงหลังคา ฯลฯ H-BEAM มีขนาดหน้าตัดให้เลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่ H100x50mm. จนถึงขนาดใหญ่สุด H900x300mm. ทำให้ H-BEAM นั้นถูกเลือกใช้ในงานที่หลากหลาย ทั้งโครงสร้างอาคาร โครงหล้งคา โครงสร้างโรงงาน หรืองานโครงการขนาดใหญ่เป็นต้น เช่น โรงจอดเครื่องบิน
เหล็กไอบีม I-beam จะนิยมนำไปทำรางเคน Crane Girder ที่ไว้ใช้ยกของที่มีน้ำหนักมาก แะเหล็กไอบีมนี้ ถูกผลิตขึ้นมากเพื่อใช้ในงานที่เฉพาะเจาะจงมากกว่า เช่น รางเลื่อนของเครนในโรงงานอุตสาหกรรม เพราะความหนาของ Flange ปีกที่ยื่นออกมา ที่มาก และมีลักษระ Taper เรียวที่ปลาย ไม่เหมือนกับ H-beam ที่มีความหนาของ Flange เท่ากันตลอด ส่งผลให้โดยทั่วไป I-beam จะสามารถรับแรงกระแทกได้ดี แต่ก็จะมีน้ำหนักที่มากกว่า เอชบีม H-Beam ในขณะที่หน้าตัดเท่ากัน เช่น
H 300x150x6.5x9mm. นน. 36.7 กก./ม.
I 300x150x8x13mm. นน. 48.3 กก./ม. ซึ่งจะเห็นได้ว่า I-Beam มีน้ำหนักมากกว่าถึง 32%
2 ด้านลักษณะรูปร่าง จุดแตกต่างของเหล็กทั้ง 2 หน้าตัด คือ ปีก Flange ทั้งบนและล่างของเหล็ก H-beam จะเป็นแผ่นเรียบหนาเท่ากันตลอด ส่วนของเหล็กไอบีม I-beam ทั้งปีกบนและล่างจะเป็นแผ่นเอียง หรือ Taper Flange ซึ่งขนาดหน้าตัดเหล็กที่เท่ากัน I-beam จะมีน้ำหนักต่อเมตรสูงกว่า H-beam เนื่องจากเหล็ก I-beam จะมีความหนาของเหล็กมากกว่าเพื่อรองรับแรงกระแทก และการเคลื่อนที่จากรางเครน
ทำไมถึงไม่มีเหล็กหน้าตัด Wide Flange ใน มอก.
Wide Flange หรือ W-Shape เป็นหน้าตัดเหล็กตามมาตรฐาน ASTM ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตามมาตรฐานในประเทศไทย จะเรียกเหล็กหน้านี้ว่า H-Beam ตาม มอก. 1227-2539
ข้อแตกต่างระหว่าง SS400 และ SM400
SM400 เป็นสินค้าที่ผลิตมาโดยผ่านการควบคุมคาร์บอน และจะสามารถรับน้ำหนักได้มากว่า SS400 สินค้า SS400 เป็นสินค้าสำหรับงานเจาะรู
เหล็ก ไอบีม I-Beam มีลักษณะอย่างไรและใช้ทำอะไร?
เหล็ก ไอบีม I-Beams TIS 1227-1996 เหมาะสำหรับการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ นิยมใช้กับงาน ที่รับแรงมากเช่น รางเครน น้ำหนักเหล็กจะสูงกว่า เอชบีม และสามารถรับน้ำหนักได้ดีกว่าเหล็กเฮชบีม หน้าตัดรูปตัวไอ I-beam ปีกเหล็กจะหนาขึ้นที่โคนปีก จึงรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี เหมาะกับงานเครื่องจักร รางเครน สำหรับเหล็กฉากหรือ Angle มีหน้าตัดรูปตัว L ใช้งานโครงสร้างหลังคา เสาส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาวิทยุ เสาโทรศัพท์ อีกหน้าตัดหนึ่ง คือ รางน้ำ หรือ Channel มีหน้าตัดรูปตัว C นิยมใช้ทำคานรองรับส่วนประกอบต่างๆ เช่น บันได คานขอบนอก นอกจากนั้น เอชบีมที่นำมาตัดแบ่งตามยาว เรียกว่า Cut Beam หรือ Cut-T ใช้ทำโครงสร้างของ Truss แทนการใช้เหล็กฉากเชื่อมประกบกัน
เหล็กไอบีมมีกี่ขนาด
เหล็กไอบีม (I-Beam) เป็นเหล็กรูปพรรณที่มีลักษณะคล้ายตัว "I" ใช้สำหรับงานโครงสร้างและการก่อสร้าง ซึ่งมีขนาดหลายแบบให้เลือกใช้ตามความต้องการของการรับน้ำหนัก โดยขนาดของเหล็กไอบีมมีหลายมาตรฐานและขนาดหลัก ๆ ที่ทางเรามีจำหน่ายได้แก่
- 150x75 มม.
- 200x100 มม.
- 200x150 มม.
- 250x125 มม.
- 300x150 มม.
- 350x150 มม.
- 400x150 มม.
- 450x175 มม.
- 600x190 มม.
ขนาดเหล็กไอบีมที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงขนาดหน้าตัด ลูกค้าสามารถเลือกความหนาและความยาวของเหล็กได้ตามความต้องการ โดยสามารถเลือกเหล็กไอบีมที่เหมาะสมได้ที่ เหล็ก I-Beam
การสังเกตเหล็ก H Beam ของแท้จาก SYS
ตารางราคาเหล็ก I-Beam วันนี้
ประเภท | ขนาด | น้ำหนักต่อเส้น (กก.) | ราคาวันนี้ |
|---|---|---|---|
ไอบีม I-BEAM | 150x75x5.5x9.5x6m | 102.6 | {{37211180}} |
ไอบีม I-BEAM | 150x75x5.5x9.5x12m | 205.2 | {{43056881}} |
ไอบีม I-BEAM | 200x100x7x10x6m | 156 | {{37378260}} |
ไอบีม I-BEAM | 200x100x7x10x9m | 234 | {{47833916}} |
ไอบีม I-BEAM | 200x150x9x16x6m | 302.4 | {{41350456}} |
ไอบีม I-BEAM | 250x125x7.5x12.5x6m | 229.8 | {{5113173}} |
ไอบีม I-BEAM | 250x125x10x19x6m | 333 | {{98364674}} |
ไอบีม I-BEAM | 300x150x8x13x6m | 289.8 | {{93103170}} |
ไอบีม I-BEAM | 300x150x10x18.5x6m | 393 | {{42493422}} |
ไอบีม I-BEAM | 300x150x11.5x22x6m | 460.8 | {{54460618}} |
ไอบีม I-BEAM | 300x150x11.5x22x9m | 691.2 | {{42327758}} |
ไอบีม I-BEAM | 300x150x11.5x22x12m | 921.6 | {{6587206}} |
ไอบีม I-BEAM | 350x150x9x15.5x6m | 351 | {{44507964}} |
ไอบีม I-BEAM | 350x150x12x24x6m | 523.2 | {{19161388}} |
ไอบีม I-BEAM | 400x150x10x18x6m | 432 | {{32266739}} |
ไอบีม I-BEAM | 400x150x12.5x25x6m | 574.8 | {{98422424}} |
ไอบีม I-BEAM | 450x175x11x20x6m | 550.2 | {{75150639}} |
ไอบีม I-BEAM | 450x175x11x20x9m | 825.3 | {{68438133}} |
ไอบีม I-BEAM | 450x175x11x20x12m | 1,100.40 | {{41892566}} |
ไอบีม I-BEAM | 600x190x13x25x6m | 798 | {{86077061}} |
ไอบีม I-BEAM | 600x190x16x35x6m | 1,056.00 | {{95137231}} |
Tolerances TIS 1227-1996 I-BEAMs, CHANNELS, ANGLES
เหล็กรูปพรรณชนิดรีดร้อน ใช้กับงานโครงสร้างขนาดใหญ่ รับน้ำหนักได้มาก นิยมใช้ทำเสา คาน ลักษณะเส้นตรง ความยาวมาตรฐาน 6ม. หน้าตัด กว้างxยาว เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ขอบปีกบนล่าง ด้านในมีความหนามากกว่าบริเวณปลายปีก
ข้อดีของการใช้เหล็กรูปพรรณรีดร้อน
- ลดระยะเวลาการก่อสร้าง ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยของโครงการ เปิดใช้งานได้รวดเร็ว
- เตรียมงานจากโรงงานได้ และใช้แรงงานน้อยกว่าการก่อสร้างด้วยระบบอื่น
- ออกแบบโครงสร้างให้มีช่วงเสากว้าง กว่าโครงสร้างระบบอื่น ไม่เปลืองพื้นที่ใช้งาน
- ออกแบบงานสถาปัตยกรรมได้หลากหลายเช่น ตัดโค้ง ทำใครงสร้างโปร่ง หรือทำส่วนยื่่นได้มาก
- โครงสร้างมีน้ำหนักเบา ทำให้ประหยัดฐานราก ลดการขนส่ง และพื้นที่กองเก็บวัสดุ
- ตรวจสอบ ควบคุมคุณภาพ และบำรุงรักษาได้สะดวกกว่าโครงสร้างอื่น
- มีความแข็งแรง สามารถรับแรงสั่นสะเทือนและแผ่นดินไหว ได้ดีกว่าโครงสร้างระบบอื่น
- ก่อสร้างในที่จำกัดได้สะดวก ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะฝุ่น
- ดัดแปลง ต่อเติม หรือรื้อไปสร้างใหม่ได้ ไม่ต้องทุบทิ้ง
- สามารถนำวัสดุมาหมุนเวียนได้ 100%
ขั้นตอนการผลิตโดยสังเขป
เนื่องจากผลิตโดยการหลอมและรีดร้อนขึ้นเป็นท่อน เหล็กโครงสร้างชนิดนี้จึงมีเนื้อเดียวกัน ไม่มีรอยเชื่อมระหว่างส่วนต่างๆ ดังนั้นคุณสมบัติของหน้าตัดจึงสม่ำเสมอกว่าเหล็กโครงสร้างชนิดอื่นเช่น เหล็กรูปพรรณกลวงซึ่งทำจากเหล็กม้วนและเชื่อมตามยาว กับเหล็กโครงสร้างรูปพรรณเชื่อมประกอบที่ทำจากเหล็กแผ่นสามชิ้นเชื่อมเข้าด้วยกัน
เหล็กไอบีม แบบเหล็กกันสนิม เหล็กทำสีสำเร็จจากโรงงาน
เหล็กไอบีม ปัจจุบัน ด้วยความต้องการเรื่องความรวดเร็ว และการลดต้นทุนการก่อสร้างหน้างาน การทำสีสำเร็จ ด้วยการพ่นสีคุณภาพ จากโรงงาน จึงเริ่มได้รับความนิยม โดยการเคลือบสีจะใช้สีคุณภาพดีที่มีความหา 80 - 100 ไมครอน ทำให้มั่นใจได้ว่า คงทน เหมาะกับหน้างานที่ดูแลยาก หรือบริเวณที่ดูแล หรือเข้าไปแก้ไขปรับปรุงยาก