เหล็กข้ออ้อย SD40 non-T 1 นิ้ว (25 มิล) DB25
เหล็กข้ออ้อย SD40 non-T 1 นิ้ว (25 มิล) DB25: คุณสมบัติและการใช้งานในงานก่อสร้างเหล็กข้ออ้อย SD40 non-T 1 นิ้ว (25 มิล) หรือที่รู้จักกันในรหัส DB25 เป็นวัสดุเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง...
728.22 บาท - 873.94 บาท
เหล็กข้ออ้อย SD40 non-T 1 นิ้ว (25 มิล) DB25: คุณสมบัติและการใช้งานในงานก่อสร้าง
เหล็กข้ออ้อย SD40 non-T 1 นิ้ว (25 มิล) หรือที่รู้จักกันในรหัส DB25 เป็นวัสดุเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง โดยเฉพาะโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะกับคอนกรีต ช่วยให้โครงสร้างมีความทนทานและปลอดภัยตามมาตรฐาน มอก. การทำความเข้าใจคุณสมบัติและข้อกำหนดของเหล็กข้ออ้อย SD40 non-T ขนาด 25 มิลลิเมตรนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวิศวกรและผู้รับเหมา การตรวจสอบ ราคา เหล็กข้ออ้อยล่าสุดสามารถทำได้ที่ OneStockHome.
ทำความรู้จักเหล็กข้ออ้อย DB25 SD40 non-T
เหล็กข้ออ้อย DB25 หมายถึงเหล็กเส้นกลมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางระบุ 25 มิลลิเมตร โดยมีหน้าตัดเป็นรูปวงกลมและมีครีบหรือบั้งที่ผิวเพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะกับคอนกรีต ส่วน SD40 บ่งบอกถึงประเภทของกำลังรับแรงดึงที่จุดคราก (Yield Strength) ซึ่งมีค่าไม่น้อยกว่า 4,000 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร (400 MPa) ซึ่งเหมาะสำหรับงานโครงสร้างขนาดกลางถึงใหญ่ คำว่า "non-T" ระบุว่าเหล็กนี้ไม่ได้ผ่านกระบวนการทางความร้อน (Thermo-Mechanical Treatment) เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติ แต่ยังคงรักษามาตรฐาน SD40 ด้วยส่วนผสมทางเคมีและการขึ้นรูป
มาตรฐานและการผลิตของเหล็กข้ออ้อย SD40 non-T
เหล็กข้ออ้อย SD40 non-T 25 มิล ผลิตภายใต้มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย (มอก. 24-2559) ซึ่งกำหนดคุณสมบัติทางเคมีและทางกลที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับการใช้งานในโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก การผลิตเหล็กประเภทนี้มุ่งเน้นความแม่นยำของขนาด น้ำหนัก และคุณสมบัติการรับแรง เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักและแรงกระทำต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพในงานก่อสร้าง เช่น เสา คาน และฐานราก การทำความเข้าใจคุณสมบัติเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกใช้เหล็กที่เหมาะสม
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของเหล็กข้ออ้อย DB25 SD40 non-T
| คุณสมบัติ | รายละเอียด |
|---|---|
| ประเภทเหล็ก | เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) |
| ขนาดระบุ (เส้นผ่านศูนย์กลาง) | 1 นิ้ว (25 มิลลิเมตร) |
| เกรดเหล็ก | SD40 (กำลังรับแรงดึงที่จุดครากไม่น้อยกว่า 4,000 ksc) |
| มาตรฐาน | มอก. 24-2559 |
| ประเภทการผลิต | Non-T (ไม่ผ่านกระบวนการทางความร้อน) |
| การใช้งานหลัก | โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่ต้องการความแข็งแรงสูง |
การใช้งานเหล็กข้ออ้อย 25 มิล (DB25) ในงานก่อสร้าง
เหล็กข้ออ้อย DB25 SD40 non-T เป็นที่นิยมใช้ในงานก่อสร้างหลากหลายประเภทที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ ได้แก่:
- โครงสร้างฐานราก: สำหรับอาคารสูงหรือโครงสร้างที่มีน้ำหนักมาก
- เสาและคาน: ในอาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน และที่พักอาศัยขนาดใหญ่
- พื้นคอนกรีต: โดยเฉพาะพื้นที่มีช่วงกว้างหรือต้องรับน้ำหนักมาก
- ผนังรับแรง (Shear Walls): เพื่อต้านทานแรงด้านข้าง เช่น แรงลมหรือแรงแผ่นดินไหว
- โครงสร้างสะพานและทางยกระดับ: ซึ่งต้องการความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ตัวเลือกขนาดและความยาว: เหล็กข้ออ้อย DB25 SD40 non-T
สำหรับเหล็กข้ออ้อย DB25 SD40 non-T มีความยาวมาตรฐานให้เลือกใช้งานเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละโครงการ การเลือกความยาวที่เหมาะสมสามารถช่วยลดการสูญเสียวัสดุและประหยัดค่าใช้จ่ายได้ การตรวจสอบน้ำหนักต่อเส้นเป็นสิ่งสำคัญในการคำนวณปริมาณการใช้งาน
| ตัวเลือกสินค้า | ความยาวมาตรฐาน | น้ำหนักโดยประมาณต่อเส้น |
|---|---|---|
| เหล็กข้ออ้อย DB25 SD40 (ไม่มีที T) | 10 เมตร (เหล็กพับ) | 38.53 กิโลกรัม/เส้น |
| เหล็กข้ออ้อย DB25 SD40 (ไม่มีที T) | 12 เมตร (เหล็กพับ) | 46.236 กิโลกรัม/เส้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับ ราคา และความพร้อมของสินค้าแต่ละตัวเลือกสามารถตรวจสอบได้ที่ OneStockHome ซึ่งเป็นแหล่งรวมวัสดุก่อสร้างชั้นนำ
การเลือกเหล็กข้ออ้อยที่เหมาะสม
การเลือกใช้เหล็กข้ออ้อย SD40 non-T 1 นิ้ว (25 มิล) DB25 ควรพิจารณาจากแบบแปลนโครงสร้างที่วิศวกรออกแบบ กำลังรับน้ำหนักที่ต้องการ และสภาพแวดล้อมของโครงการ การปรึกษาวิศวกรโครงสร้างเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าได้เลือกใช้เหล็กที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและเป็นไปตามข้อกำหนดทางวิศวกรรม
การตรวจสอบ ราคาเหล็กข้ออ้อย SD40 non-T 1 นิ้ว (25 มิล) DB25
เพื่อความสะดวกในการวางแผนงบประมาณและการจัดซื้อ ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบ ราคาเหล็กข้ออ้อย SD40 non-T 1 นิ้ว (25 มิล) DB25 ล่าสุดได้ที่แพลตฟอร์ม OneStockHome ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับวัสดุก่อสร้าง การอัปเดต ราคา อย่างต่อเนื่องช่วยให้ผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างมีข้อมูลและทันต่อสถานการณ์ตลาด