ฉนวนกันเสียง Rockwool Safe 'n' Silent Pro 330
ฉนวนกันเสียง ใยหิน Rockwool Safe n Silent Pro 330 ฉนวน ROCKWOOL ผลิตมาจากหินบะซอลท์และหินโดโลไมท์ มีคุณสมบัติเป็นสารอนินทรีย์ ดังนั้นสารจุลินทรีย์จึงไม่สามารถทำปฏิกิริยากับเนื้อฉนวนได้ ส่งผลให้ฉนวน ROCKWOOL...
57.24 บาท - 182.61 บาท
ฉนวนกันเสียง ใยหิน Rockwool Safe n Silent Pro 330
ฉนวน ROCKWOOL ผลิตมาจากหินบะซอลท์และหินโดโลไมท์ มีคุณสมบัติเป็นสารอนินทรีย์ ดังนั้นสารจุลินทรีย์จึงไม่สามารถทำปฏิกิริยากับเนื้อฉนวนได้ ส่งผลให้ฉนวน ROCKWOOL มีอายุการใช้งานยาวนานตลอดอายุการใช้งานของตัวอาคาร เนื่องจากเนื้อฉนวนจึงไม่มีการเน่าเปื่อย และไม่เป็นเชื้อรา ปราศจากสาร CFCs, HFCs, HCFCs จึงมีความปลอดภัยสำหรับการใช้งาน เนื่องจากเส้นใยของหินภูเขาไฟมีขนาดที่ใหญ่และปลายมน จัดอยู่ในประเภทเส้นใยที่ไม่ใช่แร่ใยหิน (Asbestos) จึงไม่ก่อให้เกิดมะเร็งสำหรับผู้ใช้งานหรือผู้ที่สูดดมเส้นใยเข้าไป
นอกจากความปลอดภัยในการใช้งานแล้ว ลักษณะโครงสร้างของเส้นใยที่จัดเรียงเป็นแนวสัญลักษณ์บวก ส่งผลให้ฉนวนมีความคงรูป คงทน และการคืนตัวได้ดี ส่งผลทำให้ค่าความร้อน (R Value) ที่ใช้ความหนาของฉนวนที่คงที่มาคำนวณคงที่ จึงสามารถใช้ค่านี้ได้ตลอดอายุการใช้งาน เพราะสินค้าจะอยู่คงรูปและความหนาจะไม่ลดหายไป
ตารางคุณสมบัติทางเทคนิค ฉนวนกันเสียง Rockwool
ความสามารถด้านเสียง คือการป้องกันเสียง หรือการดูดซับเสียง สามารถดูได้จากค่าการดูดซับเสียง (NRC: ค่าการดูดซับเสียงที่ความหนา 50 มิลลิเมตร) แผ่นฉนวน ROCKWOOL รุ่น Safe ‘n’ Silent Pro มีค่า NRC ที่ 1.00 ซึ่งได้รับมาตรฐานการทดสอบ EN ISO 354 / ASTM C 423-01 ซึ่งแน่นอนว่าคุณสามารถมั่นใจในระบบผนังเบาที่ใช้ ฉนวนกันเสียง ROCKWOOL ได้ว่าคุณจะสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อน หรือ มีสมาธิอย่างดีในการทำงานภายในห้องของคุณที่ปราศจากเสียงที่ไม่พึงปราถนา เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ไม่มีในฉนวนประเภทอื่น คือ คุณสมบัติในเรื่องการทนไฟ – ไม่ลามไฟ ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติเฉพาะที่มีอยู่ในฉนวนที่ผลิตจากหินภูเขาไฟเท่านั้น อ้างอิงจากการทดสอบมาตรฐานการทนไฟ EN13501-1 ซึ่งจัดเป็นวัสดุไม่ติดไฟระดับ A1 และ มีจุดหลอมเหลวมากกว่า 1,000 องศาเซลเซียส ผ่านมาตรฐานการทดสอบ ASTM E794 ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัยภายในอาคารคุณจึงมั่นใจได้ว่า คุณมีระยะเวลามากพอที่จะหลบหนีออกจากอาคาร โดยไม่เกิดการสำลักควันไฟ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในการเกิดอัคคีภัย